Superman 3
WELCOME TO MY BLOG ยินดีต้อนรับครับ ..

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Present Continuous Tense


รูปแบบของ Present Continuous Tense

 
Subject + is/am/are + V.-ing
 
 


หลักการใช้ Present Continuous Tense
1.ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่ กำลังดำเนินอยู่ในขณะที่พูด ต่อเนื่องไปเรื่อยๆและจบในอนาคต โดยอาจจะใช้ Adverbs of Time (คำกริยาวิเศษณ์บอกเวลา) บางคำ เช่น now, at the moment, right now, at present, these days เป็นต้น เข้ามาช่วยในประโยคด้วย เช่น


She is going to the supermarket at the moment.
(หล่อนกำลังไปซุปเปอร์มาร์เกตอยู่ตอนนี้)

2.ใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่ กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เช่น


I am meeting my boss this evening.
(ฉันจะพบกับเจ้านายเย็นนี้)

3.ใช้แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำที่ ผู้พูดมั่นใจว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน เช่น

He is going to China tonight.
(เขาจะเดินทางไปยังประเทศจีนคืนนี้)

4.กริยาบางตัวไม่สามารถใช้ในรูปของ Present Continuous Tense ได้ ถึงแม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะกำลังเกิดขึ้น หรือ ดำเนินอยู่ก็ตาม โดยเรามักใช้ในรูปของ Present Simple Tense กับคำกริยากลุ่มนี้แทน ซึ่ง ได้แก่

4.1) กริยาที่แสดงถึงประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่น see, hear, feel, taste, smell

I smell something bad. (ถูก)

* I am smelling something bad. (ผิด)อ่านเพิ่มเติม>>

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Present Perfect Tense


รูปแบบของ Present Perfect Tense

 
Subject + has/have + Verb3
 
 


หลักการใช้ Present Perfect Tense

1.ใช้กับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินต่อเนื่องมายังปัจจุบัน และมีแนวโน้นที่จะดำเนินต่อไปได้อีกในอนาคต เช่น
I have had a lot of toys.
ฉันมีของเล่นมากมาย (และอาจจะมีของเล่นเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต)


2.ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังส่งผลมายังปัจจุบัน เช่น



It has stopped raining.
ฝนหยุดตกแล้ว (แต่ถนนยังเปียกอยู่)



3.ใช้พูดถึง เหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำๆกัน ในช่วงเวลาหนึ่งระหว่างอดีตและปัจจุบัน โดยมักใช้คำว่า many/several times, a lot of times, …times, again and again, over and over และอื่นๆ เช่น


I’ve read this book more than 3 times.(ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้มามากกว่าสามรอบแล้ว) 



วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

If Clauses


If Clauses
 
If Clauses หรือ Conditional Sentences
คือ ประโยคที่มีข้อความแสดงเงื่อนไข (conditions) หรือการสมมุติ
ซึ่งประกอบด้วยประโยคเล็ก 2 ประโยครวมกัน และเชื่อมด้วย conjunction "if"
ประโยคที่นำหน้าด้วย if แสดงเงื่อนไข เราเรียกว่า if-clause
และประโยคที่แสดงผลเงื่อนไขนั้น เราเรียกว่า main clause
If it rains , I shall stay at home.
(If-clause) (main clause)


If + Present Simple , Future Simple.......(type 1)
(if-clause) (main clause)

If + Past Simple , S + would + V1 ........(type 2)
(if-clause) (main clause)


If + Past Perfect , S+would/should + have +V3.........(type 3)
(If- clause) (main clause)

Conditional Sentences แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
อ่านเพิ่มเติม>>

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Present Simple Tense


Present Simple Tense

                      โครงสร้างประโยค  คือ   Subject + Verb 1
        
          ใช้กับเหตุการณ์
1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เป็นความจริงตลอดไปหรือเป็นความจริงตามธรรมชาติ เช่น 
The sun rises in the east.( พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก )            .                                              
  Fire is hot. 
ไฟร้อน )
             2. ใช้กับการกระทำที่ทำจนเป็นนิสัย มักจะมีกลุ่มคำที่มีความหมายว่า เสมอๆ บ่อยๆ ทุกๆ อยู่ด้วย เช่น               
I get up at six o’clock everyday. 
ฉันตื่นนอนเวลา นาฬิกาทุกวัน )                                                                           
หลักการจำและนำไปใช้
             1.  ประธาน  He, She, It  หรือ 1 เดียวเท่านั้น ต้องเติม หรือ es  ท้ายคำกริยาด้วย มีกริยาช่วย คือ does 
                2.  ประธาน I, You, We, They, หรือ 2 ขึ้นไป กริยาเหมือนเดิม มีกริยาช่วย คือ  do
   3.  do และ does  ใช้ในประโยค คำถามและปฏิเสธ
   4.  ในประโยคมีคือ does กริยาไม่ต้องเติม s / es

ชนิดของประโยคอ่านเพิ่มเติ่ม>>

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

นิทานอีสปเรื่อง แมวกับไก่ (The Cat and the Cock)


นิทานอีสปเรื่อง แมวกับไก่ (The Cat and the Cock)

The Cat and the Cock



A CAT caught a cock, and pondered how he might find a reasonable excuse for eating him. He accused him of being a nuisance to men by crowing in the night-time and not permitting them to sleep. 



The cock defended himself by saying that he did this for the benefit of men, that they might rise in time for their labours. 
The cat replied,   "Although you abound in specious apologies, I shall not remain supperless"; and he made a meal of him. 

    
        
          “Beasts do not need excuses for killing and eating others.”
                   

นิทานเรื่องแมวกับไก่ (The Cat and the Cock)
A CAT caught a cock, and pondered how he might find a reasonable excuse for eating him.
แมวตัวหนึ่งจับไก่มาได้ก็คิดหาข้ออ้างเพื่อจะขย่ำกินไก่ตัวนั้น 

He accused him of being a nuisance to men by crowing in the night-time and not permitting them to sleep.
มันจึงกล่าวโทษไก่ว่าเป็นผู้ที่ชอบสร้างความรำคาญเดือดร้อน ชอบขันในเวลากลางคืนทำให้ผู้อื่นไม่ได้หลับไม่ได้นอน

The cock defended himself by saying that he did this for the benefit of men, that they might rise in time for their labours. 
ไก่จึงรีบแก้ตัวว่า “ข้าไม่เคยขันเวลากลางคืน ข้าขันตอนรุ่งเช้าเพื่อปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ของตนต่างหากล่ะ”

The cat replied, "Although you abound in specious apologies, I shall not remain supperless"; and he made a meal of him. 
เจ้าแมวรีบสวนตอบกลับว่า “แม้เจ้าจะมีคำแก้ตัวที่สวยหรู แต่ต่อไปนี้เจ้าไม่ต้องขันปลุกใครแล้วล่ะ เพราะข้าจะ ขย่ำเจ้ากินเดี๋ยวนี้” พูดจบเจ้าแมวก็กระโจนตะปบฉีกร่างไก่กินอย่างอร่อย

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า 
“Beasts do not need excuses for killing and eating others.”
“คนพาลย่อมมีข้ออ้างในการทำร้ายและเบียดเบียนผู้อื่นเสมอ”